แนะแนววิธีการจัดการ สาระน่ารู้หรือเคล็ดลับดีๆในการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลายๆเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อน มาอัพเดทกันก่อนใคร ที่นี่ ..
ทุกเรื่องบัตรเครดิตที่คุณควรรู้
"เป็นหนี้เยอะมากทำไงดี?" หรือ "หนี้ท่วมจนหาทางออกไม่ได้" ไม่ใช่แค่คุณที่รู้สึกแบบนี้ เพราะในความจริงแล้วหนี้คือสิ่งที่แทบทุกคนต้องเจอ ไม่ว่าจะจากการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายประจำวัน การลงทุน หรือแม้กระทั่งการใช้บัตรเครดิต แต่สิ่งที่อันตรายที่สุด ไม่ใช่การมีหนี้ แต่อยู่ที่การปล่อยให้หนี้ธรรมดากลายเป็น "หนี้เสีย" (NPL) ซึ่งอาจทำลายเครดิตการเงิน และปิดโอกาสทางการเงินของคุณในอนาคต แล้วจะเริ่มปลดหนี้ยังไงให้เร็วที่สุด และไม่กลับไปติดหนี้อีก นี่คือแนวทางที่คุณสามารถทำได้จริง
การปลดหนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่มาจากการค่อย ๆ วางแผนและลงมือทำอย่างจริงจัง ต่อไปนี้คือ 10 วิธีบริหารจัดการหนี้ ที่จะช่วยให้คุณค่อย ๆ คลายภาระหนี้ และสร้างวินัยการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง
ก่อนจะเริ่มต้นหาวิธีปลดหนี้ใด ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการทำความเข้าใจกับหนี้สินทั้งหมดที่คุณมีอย่างละเอียด เพราะการรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้อะไรอยู่บ้าง และกำลังมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นหนี้เสียหรือไม่ จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที
ตัวอย่าง: ถ้าคุณมีหนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท ดอกเบี้ย 16% และกำลังจะค้างชำระเกิน 3 เดือน การรู้ตัวเลขและสถานะหนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะต้องเจรจากับธนาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้เสีย
เมื่อคุณมีข้อมูลหนี้ในมือแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกกลยุทธ์ปิดหนี้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด มี 2 วิธีหลักแนวคิดที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
ถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหาเป็นหนี้เยอะ หาทางออกไม่ได้ และมีหนี้หลายก้อน เช่น หนี้บัตรเครดิตหลายใบที่ต้องจ่ายขั้นต่ำพร้อมกันทุกเดือน การรวมหนี้ (Debt Consolidation) ช่วยให้คุณจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะการรวมหนี้คือการนำหนี้หลายก้อนมารวมเป็นก้อนเดียว แล้วขอสินเชื่อใหม่เพื่อปิดหนี้เก่า ทำให้คุณเหลือภาระผ่อนชำระเพียงยอดเดียวต่อเดือน
ตัวอย่าง: หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3-4 ใบ รวมกว่า 100,000 บาท ต้องจ่ายขั้นต่ำหลายที่พร้อมกัน การรวมหนี้จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่ออัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อใหม่ต่ำกว่าหนี้เดิม เช่น
คำเตือน: การรวมหนี้คือการ “ย้ายหนี้” ไม่ใช่การแก้หนี้ ดังนั้น เมื่อปิดหนี้เก่าได้แล้ว ต้องระวังไม่ก่อหนี้ใหม่เพิ่ม ไม่เช่นนั้นจากการปลดหนี้จะกลายเป็นหนี้ที่หนักกว่าเดิม
สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา หรือกำลังเผชิญกับหนี้ใกล้เป็นหนี้เสีย การเจรจา คือทางออกที่ดีที่สุด ไม่ควรหลบหนีหรือเพิกเฉย เพราะจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ควรทำตามต่อไปนี้
ดังนั้น หากคุณถามว่า “ใครเคยเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่จ่ายบ้าง” คำตอบคือมีคนจำนวนมาก และทางออกที่ได้ผลจริงคือการรีบเข้าไปคุยกับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ ขอลดดอกเบี้ย หรือขยายงวดชำระให้เบาลง ซึ่งหลายผู้ให้บริการทางการเงินก็ยินดีช่วยเพื่อเลี่ยงไม่ให้หนี้กลายเป็นหนี้เสีย
การทำงบประมาณไม่ใช่แค่การควบคุมการใช้จ่าย แต่มันคือการ เร่งสปีดปลดหนี้ โดยตรง เพราะการมีแผนการเงินที่ชัดเจนทำให้คุณสามารถกันเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อชำระหนี้เกินกว่ายอดขั้นต่ำได้ในทุกเดือน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ยอดหนี้คงค้างลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ดอกเบี้ยรวมลดลงตามไปด้วย และช่วยให้คุณปลดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยแนวทางที่หลายสถาบันการเงินแนะนำ คือการแบ่งรายได้ออกเป็นสัดส่วน เช่น
เพราะการกันเงินส่วนของ “โปะหนี้” เอาไว้โดยเฉพาะ จะทำให้ยอดหนี้ต้นลดลงเร็วกว่าการจ่ายขั้นต่ำเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ดอกเบี้ยรวมลดลงตามไปด้วย และช่วยให้คุณปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
หมายเหตุ : สัดส่วนนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ผู้กู้ควรปรับให้เหมาะกับรายได้และภาระจริงของแต่ละคน เพื่อไม่ให้กดดันการเงินเกินไป
เวลาโฟกัสกับการปลดหนี้แล้วได้รับคำแนะนำว่าให้เก็บเงินฉุกเฉินไว้ด้วย หลายคนมักจะตั้งคำถามว่า “แล้วจะเอาเงินจากไหนมาเก็บกองทุนฉุกเฉิน?” เพราะเป้าหมายใหญ่คือปิดหนี้ให้เร็วที่สุด แต่ว่าการกันเงินสำรองเล็กๆ ไว้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันคือเกราะป้องกันไม่ให้คุณกลับไปก่อหนี้ใหม่ซ้ำอีก .
สมมติว่ากำลังผ่อนหนี้อย่างมีวินัย แต่จู่ ๆ เจ็บป่วยต้องจ่ายค่ารักษา 15,000 บาท หากไม่มีเงินสำรอง คุณอาจต้องรูดบัตรเครดิตเพิ่ม ทำให้หนี้เก่าที่ยังไม่หมดก็จะถูกซ้อนด้วยหนี้ใหม่ กลายเป็นหนี้วนลูปไม่รู้จบ และถ้าจ่ายหนี้ไม่ไหวก็อาจกลายเป็นหนี้เสียได้ ซึ่งการเก็บเงินฉุกเฉินไม่ให้กดดันตัวเอง คือ
ถ้าคุณลดรายจ่ายจนถึงจุดที่ทำเพิ่มไม่ได้แล้ว ทางออกที่เหลือคือการ เพิ่มรายได้ และทุกบาทที่ได้จากการทำงานเสริมควรนำไป โปะหนี้ ทันที ไม่ใช่เอาไปใช้จ่ายเพิ่ม เพราะนี่คือ วิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุด โดยตัวอย่างการทำงานเสริมเพื่อปลดหนี้ให้ไวขึ้น เช่น
เมื่อรวมกับงบหลัก การปลดหนี้ 100,000 บาทที่อาจใช้เวลา 3 ปี ก็ช่วยย่นระยะเวลาเหลือเพียง 1 ปีครึ่ง
การบอกว่า “อยากปลดหนี้” อย่างเดียวไม่ช่วยอะไร เพราะมันขาดทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน การตั้งเป้าหมายแบบจับต้องได้และมีเวลาแน่นอนจะช่วยให้คุณมีแรงผลักดันจริง เช่น
และเมื่อได้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนแบบนี้ จะทำให้คุณรู้ว่าเดือนนี้ยังขาดอีกเท่าไหร่ หรือต้องหารายได้เพิ่มแค่ไหน ทำให้เป้าหมายไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นแผนที่ที่เดินตามได้จริง
การปลดหนี้ให้หมดจะไม่เกิดขึ้นจริง ถ้าคุณยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม การปรับพฤติกรรมการใช้เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณไม่กลับไปเจอปัญหาอีก และป้องกันไม่ให้คุณต้องเป็นหนี้เสียอีกครั้ง เช่น
การ ปลดหนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย อาจมีช่วงที่ท้อจนอยากหยุด แต่สิ่งสำคัญคือต้องให้รางวัลเล็ก ๆ กับตัวเองเพื่อสร้างพลังใจให้เดินต่อไปได้ เช่น
ชัยชนะเล็ก ๆ เหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันให้คุณไปถึงชัยชนะใหญ่ คือการปลดหนี้ทั้งหมดได้อย่างถาวร
สำหรับคนที่มีหนี้หลาย ๆ ก้อนแล้วกำลังทยอยจ่าย อาจรู้สึกว่าหนี้ไม่ลดลงสักที แถมยังต้องเจอกับดอกเบี้ยสูงที่เป็นภาระระยะยาว ลองพิจารณาการใช้ สินเชื่อส่วนบุคคล อิออน ดิจิทัล ยัวร์แคช เพื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ช่วยให้คุณบริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสปลดหนี้ได้เร็วขึ้น .
แต่สิ่งสำคัญคือควรใช้เพื่อ “ปิดหนี้เดิม” เท่านั้น ไม่ใช่กู้มาเพื่อใช้จ่ายเพิ่ม เพราะนั่นจะยิ่งทำให้การปลดหนี้ยากกว่าเดิม
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 22%-25% ต่อปี
การปลดหนี้อาจไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากคุณรู้จักวางแผน เลือกวิธีจัดการหนี้ที่เหมาะสม และมีวินัยกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทุกก้าวเล็กๆ ที่คุณทำวันนี้ คือการขยับเข้าใกล้อนาคตที่ปลอดหนี้และมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้นทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมนักวางแผนการเงินไทย, Thairath Money, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, SET Investnow, เมืองไทย แคปปิตอล, Bank of Thailand