แนะแนววิธีการจัดการ สาระน่ารู้หรือเคล็ดลับดีๆในการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลายๆเรื่องที่คุณไม่รู้มาก่อน มาอัพเดทกันก่อนใคร ที่นี่ ..
ทุกเรื่องบัตรเครดิตที่คุณควรรู้
ปลายปีเป็นช่วงเวลาสำคัญที่หลายคนเริ่มเตรียมตัวยื่นภาษี และเริ่มเช็กสิทธิลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ว่าจะสามารถใช้สิทธิ์อะไรได้อีกบ้าง ซึ่งประกันก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และรวมไปถึงการใช้ประกันลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่มีเงินได้และต้องยื่นภาษีในปี 2569 (สำหรับปีภาษี 2568) บทความนี้จะมาช่วยหาคำตอบว่า ถ้าอยากซื้อประกันลดหย่อนภาษีให้คุ้มค่า ควรจะต้องรู้เรื่องอะไรก่อนบ้าง

สำหรับผู้ที่มีเงินได้ “ประกันลดหย่อนภาษี” คือสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายที่ให้ผู้มีเงินได้สามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปมาหักออกจากเงินได้ก่อนการคำนวณภาษีประจำปี ซึ่งเป็นสิทธิลดหย่อนภาษีที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้มีเงินได้ทุกคนใช้ในการวางแผนการเงินและสร้างความมั่นคงในชีวิต สิ่งนี้เองทำให้การซื้อประกันลดหย่อนภาษีจึงมีความคุ้มค่าเป็นพิเศษ เนื่องจากคุณได้ประโยชน์ 2 ด้านพร้อมกัน ดังนี้
ดังนั้น การตัดสินใจจ่ายเบี้ยประกันในปีภาษี 2568 นี้ จึงเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงที่ให้ผลตอบแทนคู่กันทั้งในรูปของความคุ้มครองและผลประโยชน์จากการประหยัดภาษีที่จะจ่ายภาษีในปี 2569

จริงอยู่ที่ว่าผู้มีเงินได้สามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ แต่อยากให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า ไม่ใช่เบี้ยประกันทุกประเภทที่จะเข้าเงื่อนไขสิทธิลดหย่อนภาษี ดังนั้น ก่อนซื้อประกันลดหย่อนภาษี ควรตรวจสอบเงื่อนไขในการใช้ประกันลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากรก่อน และเพื่อการวางแผนลดหย่อนในปีภาษี 2568 ที่ต้องยื่นภาษีปี 2569 บทความนี้ได้รวบรวมประกันลดหย่อนภาษีทั้ง 3 ประเภทมาให้ คือ
ประกันชีวิตทั่วไป* หรือประกันชีวิตสะสมทรัพย์* เปรียบเสมือนเสาหลักในการสร้างความมั่นคงระยะยาว ทั้งในแง่ของการคุ้มครองชีวิต และการสร้างวินัยในการสะสมทรัพย์ที่มีผลตอบแทนชัดเจน การเลือกซื้อกลุ่มนี้จึงหมายถึงการให้ความสำคัญกับหลักประกันของครอบครัว ซึ่งรายละเอียดตามเงื่อนไขต่อไปนี้
นอกจากนี้ ผู้มีเงินได้ยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ มาหักลดหย่อนภาษีได้อีก 10,000 บาท (รวมอยู่ในวงเงิน 100,000 บาท)
ประกันสุขภาพมีบทบาทสำคัญในการบริหารความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อทางการแพทย์ ซึ่งอาจกลายเป็นภาระใหญ่ในอนาคต โดยเบี้ยประกันสุขภาพที่จ่ายในแต่ละปีจึงเปรียบเสมือน “การลงทุนเพื่อความอุ่นใจ” ที่นอกจากช่วยคุ้มครองสุขภาพของคุณแล้ว ยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีภายใต้วงเงินที่รัฐกำหนดไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดตามเงื่อนไขต่อไปนี้
ประกันชีวิตแบบบำนาญ* คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับการวางแผนเกษียณที่ทรงพลังที่สุด เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐด้วยวงเงินลดหย่อนภาษีที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะมีรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอหลังเกษียณอายุ ซึ่งเงื่อนไขตามรายละเอียดต่อไปนี้

การเลือกซื้อประกันไม่ควรมองแค่เรื่อง “ลดหย่อนภาษี” เท่านั้น แต่ควรพิจารณาด้วยว่าแบบไหนตอบโจทย์ชีวิตและความคุ้มครองที่คุณต้องการ เพราะประกันแต่ละประเภทมีจุดแข็งต่างกัน ทั้งในด้านสุขภาพ การออม และการเกษียณ โดยเฉพาะในปีภาษี 2568 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ผู้มีเงินได้สามารถเตรียมใช้สิทธิลดหย่อนสำหรับการ “ยื่นภาษีปี 2569” ดังนั้น การเลือกประกันให้ตรงกับเป้าหมายตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้คุณวางแผนได้ทั้งความคุ้มครองและความคุ้มค่าไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับคนที่อยากป้องกันความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาล ควรเลือก ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) พร้อมวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนให้คุ้มในปีภาษี เพื่อให้ได้ทั้งความอุ่นใจและความคุ้มค่าทางภาษี
ถ้าต้องการสร้างวินัยทางการเงินและผลตอบแทนระยะยาวประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นทางเลือกที่เหมาะ เพราะให้ความคุ้มครองชีวิตพร้อมผลตอบแทนระหว่างสัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมอย่างมีเป้าหมายและได้รับสิทธิลดหย่อนควบคู่ไปด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในวัยเกษียณ ประกันชีวิตแบบบำนาญ คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะช่วยสร้างรายได้ประจำหลังเกษียณ พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีที่รัฐสนับสนุน เหมาะกับคนที่มองหาการออมระยะยาวที่ได้ทั้งความมั่นคงและความคุ้มค่า

เมื่อคุณตัดสินใจซื้อประกันลดหย่อนภาษี* เพื่อยื่นภาษีในปี 2569 สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพร้อมที่จะใช้ยื่นภาษีออนไลน์ 2569 แล้วจริง ๆ ถึงจะจ่ายเบี้ยประกันไปแล้ว แต่หากขาดเอกสารหรือการยินยอมที่จำเป็น อาจทำให้เสียสิทธิลดหย่อนภาษีไปโดยไม่รู้ตัว มาดูเช็กลิสต์กันได้เลย
ตรวจสอบว่าคุณได้ชำระเบี้ยประกันครบถ้วนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับปีภาษีนี้ และต้องมั่นใจว่าได้รับใบเสร็จหรือหนังสือรับรองการจ่ายเบี้ยประกันจากบริษัทประกันภัยแล้ว เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ
แจ้งความประสงค์ให้บริษัทประกันเปิดเผยข้อมูลการชำระเบี้ยต่อกรมสรรพากร (Tax Consent) เพื่อให้ระบบ e-Filing สามารถดึงข้อมูลสิทธิลดหย่อนของคุณมาแสดงโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การยื่นภาษีสะดวกและแม่นยำขึ้น หากไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ตั้งแต่ต้น คุณจะต้องแนบเอกสารด้วยตนเองตอนยื่นภาษี
แม้ว่ากรมสรรพากรจะได้รับข้อมูลการชำระเบี้ยโดยตรงจากบริษัทประกันแล้ว แต่ก็ควรเก็บหนังสือรับรองการจ่ายเบี้ยประกันไว้ในรูปแบบเอกสารหรือไฟล์ดิจิทัล เพื่อเป็นหลักฐานสำรอง
ก่อนยื่นภาษี 2569 ควรทบทวนและคำนวณยอดรวมของเบี้ยประกันทุกประเภทที่ใช้สิทธิลดหย่อนจากปีภาษี 2568 เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้สิทธิ์ของคุณเป็นไปตามวงเงินสูงสุดที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการรวมวงเงินระหว่าง เบี้ยประกันชีวิตกับเบี้ยประกันสุขภาพ สูงสุด 100,000 บาท และการรวมวงเงินของประกันบำนาญกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ สูงสุด 500,000 บาท เพื่อป้องกันการยื่นเกินสิทธิ์

การวางแผนซื้อประกันลดหย่อนภาษี 2569 ภายในปีภาษี 2568 คือหนึ่งในวิธีจัดการการภาษีอย่างชาญฉลาด เพราะนอกจากจะช่วยลดภาระภาษีที่ต้องจ่ายในปีหน้าแล้ว ยังเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงในชีวิตระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันบำนาญเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี การเลือก “ช่องทางชำระเงิน” ที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่าการจ่ายทั่วไปก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอิออน เวลล์เนส แพลทินัม*เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะมอบทั้งความสะดวก ผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพในเวลาเดียวกัน ดังนี้
การเลือกชำระค่าเบี้ยประกันผ่าน บัตรเครดิตอิออน เวลล์เนส แพลทินัม เป็นอีกหนึ่งวิธีวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ ปีภาษี 2568 เพื่อใช้สิทธิ์ประกันลดหย่อนภาษี 2569 ได้เต็มจำนวน พร้อมรับเครดิตเงินคืนและสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพในเวลาเดียวกัน
*สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
ปีภาษี 2568 กำลังจะผ่านไป อย่าลืมใช้โอกาสนี้วางแผนภาษีเพื่อให้การยื่นภาษีปี 2569 เป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่ากว่าที่เคย ซึ่ง “ประกันลดหย่อนภาษี 2569” ไม่ได้เป็นแค่สิทธิ์ทางภาษี แต่คือการลงทุนเพื่อความมั่นคงในชีวิตระยะยาวที่ให้คุณได้ทั้งความอุ่นใจและผลประโยชน์ทางการเงินไปพร้อม ๆ กัน
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าลดหย่อนภาษีได้จากเอกสารประกาศของกรมสรรพากรได้ที่ลิงก์นี้ >คลิก<
ขอบคุณข้อมูลจาก :
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย, กรมสรรพากร, thai financial planners association,